Bangmod Guru EP.11 ตอน การดึงหน้าเทคนิคใหม่ล่าสุด Modern Facelift โดย นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล รพ.บางมด
หลักการของการดึงหน้า เทคนิคใหม่ล่าสุด หรือMODERN FACELIFT คืออะไรและมีข้อดีอย่างไรบ้างติดตามหาคำตอบได้ใน Bangmod Guru EP.11 ตอน การดึงหน้าเทคนิคใหม่ล่าสุด Modern Facelift โดย นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล รพ.บางมด
สุดท้ายแล้วสิ่งที่ใหม่ที่สุดในปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็น MODERN FACELIFT เป็นเทคนิคทางโรงพยาบาลบางมดได้คิดค้นขึ้นมา ถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ในวงการศัลยกรรม หรือว่าการทำศัลยกรรมดึงหน้า FACELIFT
การทำ MODERN FACELIFT มีหลักการดังนี้
ค้นพบความหย่อนคล้อยในใบหน้าของเราที่ไม่ได้เกิดขึ้นทุกส่วนพร้อมกัน และแต่ละคนมีความหย่อนคล้อยของแต่ละส่วนบนใบหน้าไม่เท่ากัน
ในสมัยก่อนถ้าเราต้องการผ่าตัดดึงหน้า หรือต้องการทำ FACELIFT จะหมายถึงการดึงหน้าทั้งหมด ดึงหน้าทั้งหน้ารวมทั้งคอด้วย บางคนรวมหน้าผากด้วย
แต่ในยุคปัจจุบันหรือการทำ MODERN FACELIFT ค้นพบมาแล้วว่าความหย่อนคล้อยแต่ละส่วนไม่เท่ากัน ดังนั้นแบ่งความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้ทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าส่วนบน ใบหน้าส่วนล่าง การดึงคอ การดึงหน้าผาก
เมื่อแบ่งออกเป็นส่วนๆแล้ว สามารถวิเคราะห์คนไข้ได้เลยว่า จริงๆแล้วควรทำส่วนไหน และสามารถทำแยกส่วนได้
บางคนใบหน้าตึงอยู่แล้ว ความหย่อนคล้อยเกิดที่คออย่างเดียว ก็สามารถดึงแค่ ช่วงคออย่างเดียวได้
บางคนความหย่อนคล้อยเกิดที่ส่วนบนที่บริเวณหางตา รอยตีนกามากกว่าส่วนอื่นก็สามารถทำแค่ดึงหางตา และดึงหน้าได้ เป็นข้อดีของ MODERN FACELIFT สามารถทำแยกส่วนได้ SEGMENTAL FACELIFT อยากทำศัลยกรรมดึงหน้าแบบแยกส่วนได้ เมื่อแยกส่วนได้ ข้อดีคือ คนไข้แต่ละคนไม่จำเป็นต้องทำเยอะ ยิ่งเราทำน้อย ความปลอดภัยยิ่งมีมากขึ้น ผลลัพธ์ดี บางครั้งถ้าทำแค่ 1-2 อย่าง ไม่ได้ทำทั้งหน้า ก็สามารถฉีดยาชาทำได้
และมีความปลอดภัยสูงกว่าการดมยาสลบ การพักฟื้นก็จะเร็วขึ้น เนื่องจากเราไม่ได้ทำทุกส่วน ทำแค่เฉพาะจุดที่มีปัญหาจริงๆ การพักฟื้นการหายก็จะเร็วขึ้น ส่วนแรกของ MODERN FACELIFT คือทำเป็นส่วนๆได้
ส่วนที่ 2 ของ MODERN FACELIFT ก็คือจะทำให้เป็น INDIVIDUALIZED มากขึ้น หมายความว่าความหย่อนคล้อย จะมีการGRADING ความหย่อนคล้อยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ละส่วนก็ไม่เหมือนกัน จะ มีการ GRADING ความหย่อนคล้อยของใบหน้า แตะละส่วนแบ่งออกเป็น 4 เกรด
เพราะฉะนั้นการผ่าตัดจะปรับตาม GRADING ของความหย่อนคล้อย ยกตัวอย่างเช่น บริเวณส่วนบนใครมีความหย่อนคล้อยมาก ความหย่อนคล้อยระดับ 4 การเย็บ SMAS ก็จะเย็บ SMAS ที่มากขึ้น จะมีระยะทางในการเย็บ SMAS ที่มากขึ้นเพื่อให้ตึงขึ้น ถ้าเกิดความหย่อนคล้อยน้อยก็ทำน้อย ปรับการผ่าตัดตามเกรด หย่อนมากก็เย็บให้ตึงมาก ถ้าหย่อนน้อยก็จะเย็บให้ตึงน้อย เพื่อให้พอดีกับความหย่อนคล้อยในแต่ละบริเวณ ข้อดีคือมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในสมัยก่อนจะดึงหน้า ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ชั้น SMAS จะดึงส่วนไหนคือจะเย็บเท่ากันหมด เพราะไม่มีการ GRADING แต่ในยุคปัจจุบัน เนื่องจากว่าเรารู้ว่าแต่ละคนไม่เหมือนกัน การที่จะทำให้เป็นธรรมชาติจะต้องทำตาม GRADING ด้วย ดังนั้นต้องมีการ GRADING ความหย่อนคล้อยของใบหน้าขึ้นมาในแต่ละส่วนเป็น 4 เกรด และปรับการผ่าตัดตามแต่ละส่วนนั้นด้วย
โดยสรุป การดึงหน้า เทคนิคใหม่ MODERN FACELIFT
1.มี GRADING คือการแยกความหย่อนคล้อยแต่ละส่วนมากน้อยแค่ไหน และมีการปรับการผ่าตัดตามเกรดความหย่อนคล้อยของแต่ละคน
2.สามารถแยกส่วนทำได้ ใบหน้าแยกเป็น 4 ส่วนได้ไม่จำเป็นต้องทำหมดทุกส่วน การทำ Facelift ปัจจุบันสามารถแยกทำได้ บางคนทำแค่ส่วนบนอย่างเดียว บางคนทำแค่ส่วนล่าง บางคนดึงคออย่างเดียวได้
สุดท้ายคือผลดีของการทำ MODERN FACELIFT จากการที่แยกส่วนและมีการปรับเย็บตามความหย่อนคล้อย ข้อดีก็คือการพักฟื้นเร็วขึ้น ความปลอดภัยสูงขึ้น ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบก็ได้
3.ความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
4.การอยู่คงทนถาวรก็มากขึ้นดัวย
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
http://bangmodaesthetic.com/home
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
หลักการของการดึงหน้า เทคนิคใหม่ล่าสุด หรือMODERN FACELIFT คืออะไรและมีข้อดีอย่างไรบ้างติดตามหาคำตอบได้ใน Bangmod Guru EP.11 ตอน การดึงหน้าเทคนิคใหม่ล่าสุด Modern Facelift โดย นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล รพ.บางมด
สุดท้ายแล้วสิ่งที่ใหม่ที่สุดในปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็น MODERN FACELIFT เป็นเทคนิคทางโรงพยาบาลบางมดได้คิดค้นขึ้นมา ถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ในวงการศัลยกรรม หรือว่าการทำศัลยกรรมดึงหน้า FACELIFT
การทำ MODERN FACELIFT มีหลักการดังนี้
ค้นพบความหย่อนคล้อยในใบหน้าของเราที่ไม่ได้เกิดขึ้นทุกส่วนพร้อมกัน และแต่ละคนมีความหย่อนคล้อยของแต่ละส่วนบนใบหน้าไม่เท่ากัน
ในสมัยก่อนถ้าเราต้องการผ่าตัดดึงหน้า หรือต้องการทำ FACELIFT จะหมายถึงการดึงหน้าทั้งหมด ดึงหน้าทั้งหน้ารวมทั้งคอด้วย บางคนรวมหน้าผากด้วย
แต่ในยุคปัจจุบันหรือการทำ MODERN FACELIFT ค้นพบมาแล้วว่าความหย่อนคล้อยแต่ละส่วนไม่เท่ากัน ดังนั้นแบ่งความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้ทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าส่วนบน ใบหน้าส่วนล่าง การดึงคอ การดึงหน้าผาก
เมื่อแบ่งออกเป็นส่วนๆแล้ว สามารถวิเคราะห์คนไข้ได้เลยว่า จริงๆแล้วควรทำส่วนไหน และสามารถทำแยกส่วนได้
บางคนใบหน้าตึงอยู่แล้ว ความหย่อนคล้อยเกิดที่คออย่างเดียว ก็สามารถดึงแค่ ช่วงคออย่างเดียวได้
บางคนความหย่อนคล้อยเกิดที่ส่วนบนที่บริเวณหางตา รอยตีนกามากกว่าส่วนอื่นก็สามารถทำแค่ดึงหางตา และดึงหน้าได้ เป็นข้อดีของ MODERN FACELIFT สามารถทำแยกส่วนได้ SEGMENTAL FACELIFT อยากทำศัลยกรรมดึงหน้าแบบแยกส่วนได้ เมื่อแยกส่วนได้ ข้อดีคือ คนไข้แต่ละคนไม่จำเป็นต้องทำเยอะ ยิ่งเราทำน้อย ความปลอดภัยยิ่งมีมากขึ้น ผลลัพธ์ดี บางครั้งถ้าทำแค่ 1-2 อย่าง ไม่ได้ทำทั้งหน้า ก็สามารถฉีดยาชาทำได้
และมีความปลอดภัยสูงกว่าการดมยาสลบ การพักฟื้นก็จะเร็วขึ้น เนื่องจากเราไม่ได้ทำทุกส่วน ทำแค่เฉพาะจุดที่มีปัญหาจริงๆ การพักฟื้นการหายก็จะเร็วขึ้น ส่วนแรกของ MODERN FACELIFT คือทำเป็นส่วนๆได้
ส่วนที่ 2 ของ MODERN FACELIFT ก็คือจะทำให้เป็น INDIVIDUALIZED มากขึ้น หมายความว่าความหย่อนคล้อย จะมีการGRADING ความหย่อนคล้อยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ละส่วนก็ไม่เหมือนกัน จะ มีการ GRADING ความหย่อนคล้อยของใบหน้า แตะละส่วนแบ่งออกเป็น 4 เกรด
เพราะฉะนั้นการผ่าตัดจะปรับตาม GRADING ของความหย่อนคล้อย ยกตัวอย่างเช่น บริเวณส่วนบนใครมีความหย่อนคล้อยมาก ความหย่อนคล้อยระดับ 4 การเย็บ SMAS ก็จะเย็บ SMAS ที่มากขึ้น จะมีระยะทางในการเย็บ SMAS ที่มากขึ้นเพื่อให้ตึงขึ้น ถ้าเกิดความหย่อนคล้อยน้อยก็ทำน้อย ปรับการผ่าตัดตามเกรด หย่อนมากก็เย็บให้ตึงมาก ถ้าหย่อนน้อยก็จะเย็บให้ตึงน้อย เพื่อให้พอดีกับความหย่อนคล้อยในแต่ละบริเวณ ข้อดีคือมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในสมัยก่อนจะดึงหน้า ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ชั้น SMAS จะดึงส่วนไหนคือจะเย็บเท่ากันหมด เพราะไม่มีการ GRADING แต่ในยุคปัจจุบัน เนื่องจากว่าเรารู้ว่าแต่ละคนไม่เหมือนกัน การที่จะทำให้เป็นธรรมชาติจะต้องทำตาม GRADING ด้วย ดังนั้นต้องมีการ GRADING ความหย่อนคล้อยของใบหน้าขึ้นมาในแต่ละส่วนเป็น 4 เกรด และปรับการผ่าตัดตามแต่ละส่วนนั้นด้วย
โดยสรุป การดึงหน้า เทคนิคใหม่ MODERN FACELIFT
1.มี GRADING คือการแยกความหย่อนคล้อยแต่ละส่วนมากน้อยแค่ไหน และมีการปรับการผ่าตัดตามเกรดความหย่อนคล้อยของแต่ละคน
2.สามารถแยกส่วนทำได้ ใบหน้าแยกเป็น 4 ส่วนได้ไม่จำเป็นต้องทำหมดทุกส่วน การทำ Facelift ปัจจุบันสามารถแยกทำได้ บางคนทำแค่ส่วนบนอย่างเดียว บางคนทำแค่ส่วนล่าง บางคนดึงคออย่างเดียวได้
สุดท้ายคือผลดีของการทำ MODERN FACELIFT จากการที่แยกส่วนและมีการปรับเย็บตามความหย่อนคล้อย ข้อดีก็คือการพักฟื้นเร็วขึ้น ความปลอดภัยสูงขึ้น ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบก็ได้
3.ความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
4.การอยู่คงทนถาวรก็มากขึ้นดัวย
“มั่นใจยิ่งกว่า ที่โรงพยาบาลบางมด”
ปรึกษาปัญหาความงามเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
http://bangmodaesthetic.com/home
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
