Bangmod Guru EP.34 ตอน รวบรวมคำถาม FAQ ที่หลายคนสงสัย เกี่ยวกับ Fat Grafting หรือ Lipofilling

 

ขอนำเสนอ Bangmod Guru วันนี้เราได้รวบรวมคำถามเกี่ยวกับ Fat Grafting  หรือ Lipofilling มาให้ทุกท่านได้ทราบกันว่ามีอะไรบ้าง ติดตามหาคำตอบทั้งหมดได้ใน Bangmod Guru EP.34 ตอน รวบรวมคำถาม FAQ ที่หลายคนสงสัย เกี่ยวกับ Fat Grafting หรือ Lipofilling ถ้าพร้อมแล้ว ไปฟังพร้อมกันเลยนะครับ


 

 

 

เป็นคำถามที่คนไข้มักจะถามกันมามากมายเกี่ยวกับการฉีดไขมัน  คือ ถ้าดูดไขมันเสร็จแล้วสามารถนำไขมันมาฉีดได้เลยหรือไม่  คำถามนี้เป็นคำถามที่คนต้องการมากเพราะบางคนมีรูปร่างอ้วนมีสัดส่วนที่ไม่ดีพอเราดูดไขมันเสร็จแน่นอนว่าเราไม่อยากนำไขมันไปทิ้ง ...ส่วนมากในปัจจุบันจะนำมาฉีดเติมเต็มที่ใบหน้าเนื่องจากมีผลทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ลงผ่านกลไกต่างๆ ที่หมอเคยเล่าให้ฟัง แต่คำถามก็คือว่าทุกคนที่ดูดไขมันสามารถนำมาเติมเต็มได้ไหม? คำตอบก็คืออยู่ที่เทคนิคในการดูด ถ้าเกิดดูดไขมันด้วยกลไกในการดูดเพื่อที่จะทิ้งจะใช้เครื่องที่มีแรงกลที่เยอะ มีความร้อนสูงที่จะทำให้ไขมันแตกตัว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเวเซอร์หรือเครื่องเลเซอร์ หรือเครื่องพาวเวอร์แอสซิสต์ ...เป็นเครื่องสำหรับการดูดไขมัน  ไขมันจะออกมาเยอะแต่ไขมันที่ออกมาจะไม่มีประสิทธิภาพที่จะไปฉีดได้ ดังนั้นต้องอยู่ที่กรรมวิธีในการดูด แต่ถ้าเราต้องการที่จะดูดเพื่อนำมาเติมเต็ม ต้องผ่านการดูดอีกวิธีหนึ่งหรือเรียกว่า การดูดเพื่อ Preserve Fat Cells การดูดแบบนี้จะใช้เวลานานกว่าในการทำ เนื่องจากว่าต้องใช้แรงดูดและหัวดูดที่พอดี ถ้าเกิดใช้แรงดูดที่เยอะเกินไป Fat Cells จะสลาย  และเมื่อนำไปฉีดเติมเต็มมันก็จะไม่อยู่จะสลายเร็วมาก ดังนั้นการดูดเพื่อนำไปเติมเต็มจะใช้อีกวิธีหนึ่งต้องใช้แรงดูดที่พอดีกับบริเวณที่เราจะไปเติมเต็มซึ่งสามารถทำได้ ถ้าคนไข้ต้องการที่จะดูดไขมันเพื่อไปฉีดต้องบอกหมอตั้งแต่แรก ไม่สามารถที่จะดูเสร็จเรียบร้อยแล้วแล้วบอกหมออีกทีไม่ได้นะครับ ดังนั้นขั้นตอนการผ่าตัดอุปกรณ์ที่ใช้จะแตกต่างกัน
 
คำถามที่คนไข้ถามหมอมาเยอะเหมือนกันนั่นก็คือ การฉีดไขมันกับการฉีดฟิลเลอร์ต่างกันอย่างไรและ มีข้อดี - ข้อเสียอย่างไร
การฉีดไขมันจะต้องใช้ไขมันของตัวเราเองเท่านั้น ไม่สามารถใช้ไขมันจากสัตว์ ไขมันของคนอื่นหรือ ไขมันเทียมได้
...การฉีดไขมันมีวิธีเดียวก็คือการดูดไขมันจากตัวเองและผ่านกรรมวิธีต่างๆ สกัดให้ได้ Fat Cells  เพื่อฉีดเติมเต็ม
ในทางกลับกัน ถ้าเป็นฟิลเลอร์  คือ สารเติมเต็มที่เป็นสารสังเคราะห์ส่วนมากที่นิยมฉีดจะใช้เป็น HA ( Hyaluronic Acid ) มีอัตราการสลายที่ชัดเจน มีการสลายภายใน  6 เดือน - 1 ปี การฉีดฟิลเลอร์บางชนิดก็สามารถสลายได้หมดฟิลเลอร์ สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายแบบ เช่นฟิลเลอร์ชั่วคราว ฟิลเลอร์กึ่งถาวร ฟิลเลอร์ถาวร    
 
ข้อดีข้อเสียของไขมันและการฉีดฟิลเลอร์
ข้อดีของไขมัน 
1. ปลอดภัย  เพราะเป็นไขมันของเราเองถ้าผ่านกรรมวิธีที่ถูกต้องจะมีความปลอดภัยสูง โอกาสที่ร่างกายเราจะต่อต้านไขมันของเราเองมีโอกาสน้อยมาก ถ้าเทียบกับการฉีดฟิลเลอร์ ดังนั้นการอักเสบการติดเชื้อหรือการต่อต้านไขมันมีโอกาสน้อยกว่า   
2. เวลาเราดูดใครมันเราก็สามารถลดสัดส่วนบริเวณที่เราดูดได้ด้วย เช่น บางคนต้องการลดหน้าท้องลดต้นขา เราก็ดูดไขมันบริเวณนั้นเพราะฉะนั้นบริเวณนั้นก็จะมีไขมันน้อย แล้วก็ได้ไขมันเพื่อมาฉีดเติมเต็มด้วย
3. การฉีดไขมันถ้าผ่านการสกัดที่ถูกต้องจะมีตัว Stem Cell จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน กระตุ้นให้เกิดการสร้างหลอดเลือด โดยรวมมีผลที่จะทำให้ใบหน้าดูเด็กลงได้มากกว่าการฉีดฟิลเลอร์
4. สามารถเติมเต็มได้แทบทุกส่วนบนใบหน้าเพราะ ใบหน้าคนเราจะมีจะไขมันแทรกอยู่ไม่ว่าจะเป็นหนังตาก็จะมีไขมัน  บริเวณหน้าผาก ขมับ แก้ม โหนกแก้ม หรือริมฝีปาก เมื่อเกิดไขมันฟ่อ เราสามารถเติมเต็มไขมันกลับเข้าไปได้ตามธรรมชาติ มีโอกาสที่จะเติมเต็มได้แทบทุกส่วนบนใบหน้า
ข้อเสียของการฉีดไขมัน
1. เราต้องเจ็บตัว 2 ที่ เเละมีเเผลเล็กน้อย 2 บริเวณ
2. การพักฟื้นนานกว่าการบวมช้ำจะเยอะกว่า
3. ต้องเป็นแพทย์เฉพาะทางและอุปกรณ์ผ่าตัดที่ต้องได้มาตรฐานจะมีค่าเครื่องมือ ค่าใช้จ่ายสูงมากกว่าฟิลเลอร์ โดยภาพรวม
 
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์
1. ไม่ต้องเจ็บ 2 ที่ เราอยากฉีดเราก็ซื้อมาฉีดได้เลย
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์
1. เติมเต็มได้เฉพาะจุดเล็กๆ ต้องเลือกฟิลเลอร์ให้ถูกตำแหน่งต้องเลือกโมเลกุลให้ตรงกับตำแหน่ง เราไม่สามารถฉีดฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลใหญ่เข้าไปในบริเวณใต้ตาหรือปากได้ เพราะบริเวณนั้นมีผิวที่บางอาจทำให้เกิดเป็นก้อนแข็ง
2. ถ้าฉีดฟิลเลอร์ไม่ถูกต้องอาจเกิดอาการแพ้ ติดเชื้อ และอักเสบ และการแก้ไขขะยากกว่า แต่ถ้าเป็นไขมันเมื่อเราฉีดแล้วพอมันอยู่ตัวมันก็จะเกาะติด โอกาสที่จะต้องแก้ไขจะง่ายกว่าปลอดภัยกว่า แต่ถ้าเป็นการฉีดฟิลเลอร์ต้องเลือกดีๆ ต้องเลือกโมเลกุลที่ถูกต้อง ตำแหน่งที่ถูกต้อง และต้องฉีดโดยแพทย์เฉพาะทาง ต้องระวังเพราะบางคนก็แพ้สารในฟิลเลอร์ได้  แม้อัตราการแพ้จะน้อยมากแต่ก็มีเนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์เป็นสารสังเคราะห์ คนไข้บางคนแพ้เฉพาะโปรตีนฟิลเลอร์  แต่ว่าถ้าเป็นไขมันของตัวเราเองค่อนข้างจะปลอดภัยเกือบ 100% เลย  เพราะฉะนั้นโดยรวมถ้าหากเราต้องการเติมเล็กๆ น้อยๆ ไม่ต้องการที่จะเจ็บตัว 2 ที่ ถ้าต้องการเติมปริมาณน้อยหมอจะแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์  แต่ถ้าเติมในปริมาณมากหมอจะแนะนำให้ฉีดไขมัน  เพราะสามารถทำได้ทุกส่วนและปลอดภัยขึ้น อยู่กับวิธีการเลือกและที่สำคัญควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อดูว่าใบหน้าของเราควรจะทำแบบไหนและถ้าเราจะทำจุดนี้หมอจะแนะนำให้เป็นการฉีดฟิลเลอร์หรือฉีดไขมัน มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน
 
การเตรียมตัวก่อน - หลังการฉีดไขมัน
การฉีดไขมันเป็นหัตถการที่เล็ก สามารถดูดไขมันและฉีดไขมันโดยใช้วิธีการฉีดยาชาได้เลย สำหรับใครที่มีความกลัวความกังวลมากอาจจะใช้การดมยาสลบช่วย แต่ว่าโดยรวมแล้วไม่ว่าจะเป็นการดูดไขมันหรือกรรมวิธีต่างๆ ในการฉีดเติมเต็มโดยทั่วไป ถือว่าเป็นการผ่าตัดเล็กสามารถยาชาได้ทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้เลยใช้ชีวิตได้ตามปกติ ก่อนผ่าตัด  ควรบอกโรคประจำตัวกับหมอ ถ้าทานยาบางชนิดเช่นยาจำพวกแอสไพรินสมุนไพรที่ส่งผลให้เลือดไหลเยอะ ก็ควรแจ้งคุณหมอก่อน ถ้าหยุดทานประมาณ 1 - 2 อาทิตย์ ก็ดีนะครับ เพราะการผ่าตัดถึงจะเป็นการผ่าตัดที่เล็กแต่ถ้าเราทานยาบางอย่างที่ทำให้เลือดไหลเยอะแน่นอนระยะเวลาการพักฟื้นการบวมเขียวการช้ำก็จะนานกว่า ทางที่ดีก็ควรจะแจ้งโรค ประจำตัวกับหมอก่อน เตรียมตัวให้พร้อมก่อนผ่าตัด
 

สำหรับหลังผ่าตัด หลังการฉีดไขมันมีหลักการง่ายๆ คือเวลาฉีดไขมันจะเป็นแค่รูเข็มเป็นจุดๆ บนใบหน้า หมอบางท่านก็จะเย็บด้วยไหมเล็กๆ ถ้ามีไหมเย็บก็ประมาณ 1 สัปดาห์ ให้มาตัดตามนัด ถ้าไม่มีมาเย็บส่วนมากจะเป็นแค่ลูกเข็มเล็กๆ ก็จะสมานเอง แผลห้ามโดนน้ำประมาณ 3 - 4 วัน หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ในช่วงแรกจากการเติมไขมันจะไม่แนะนำให้มีการนวดหน้า ไม่แนะนำให้ทำอะไรที่มีการกระทบแรงเพราะว่าไขมันช่วงแรกจะยังไม่เกาะมีโอกาสที่จะไหล


ปรึกษาปัญหาเรื่องศัลยกรรมครบวงจรเพิ่มเติมได้ที่ 
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
เพิ่มเพื่อน