ตอบโจทย์ปัญหาผิววัย 30+
Botox , Filler และ Ulthera แบบไหนดีกว่ากัน ??
ใบหน้าก็เหมือนอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย ย่อมมีการเสื่อมสภาพตามวัย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ และทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยกลางคนผิวหนังจะเริ่มเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น จุดด่างดำ กระ ฝ้า ปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน หรือในกลุ่มคนที่มีอายุมาก ผิวหน้าจะเกิดความหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลก ชั้นไขมันฝ่อตัว ผิวบาง ความยืดหยุ่นลดลง เป็นต้น
กลุ่มผู้ที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย รอยย่น รอยยับที่ยังไม่ลึกมาก หรือผิวหนังหย่อนคล้อยไม่มาก ในระดับ Grade 2 เหมาะกับการใช้โบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) หรือ โบท็อกซ์ (BOTOX®) ซึ่งเป็น Neurotoxin ที่มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อทำงานลดลง
นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แพทย์ผิวหนังพบว่า Botulinum Toxin มีฤทธิ์ช่วยระงับการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนที่ดึงใบหน้าลง ทำให้ใบหน้ายกขึ้น ดูตึงกระชับ โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อบริเวณชั้น Dermis และการฉีดเป็นจุดเล็กๆ ยังเป็นการช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ให้เกิดขึ้นด้วย ทั้งนี้ การฉีด Botulinum Toxin เพื่อลดริ้วรอยบนใบหน้าที่นิยมฉีดกัน ได้แก่ รอยย่นตีนกาข้างหางตาทั้งสองข้าง รอยย่นระหว่างคิ้ว รอยยับย่นกลางหน้าผาก กราม
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/BOTOX_web.jpg)
ต่อมาในกลุ่มผู้ที่มีอายุมากขึ้น ที่มีปัญหาผิวหนังในระดับ Grade 3 ตามการตรวจวัดความหย่อนคล้อยใบหน้า (Grading) ซึ่งนอกจากผิวหน้าจะหย่อนคล้อยลงแล้ว ยังมีการฝ่อของชั้นไขมัน และผิวหนังบางลงร่วมด้วย โดยสามารถเห็นได้ชัดบริเวณรอบกระบอกตา บริเวณร่องแก้ม และขมับ ดังนั้น การเติมสารเติมเต็มจะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้
ประการที่สอง ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้ถูก ทั้งในเรื่องมาตรฐานรับรองคุณภาพ FDA และคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหา เช่น Filler ถ้าต้องการแก้ไขในส่วนของร่องบนผิวหน้า ผลิตภัณฑ์ก็ควรมีเนื้อที่นิ่มกลืนไปกับผิว แต่หากต้องการยกกระชับใบหน้า ก็ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความคงตัวค่อนข้างสูง ซึ่งแพทย์ต้องเลือกให้เหมาะสม สุดท้ายคือ เทคนิค ต้องฉีดให้ถูกตำแหน่ง เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนและให้ได้ผลลัพธ์ดี”
เนื่องจากในปัจจุบัน มีวิธีการรักษา และเทคโนโลยีในการรักษาใบหน้าให้อ่อนเยาว์หลายวิธี ดังนั้น สิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการ ควรเลือกสถานบริการที่มีแพทย์เฉพาะ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและมากประสบการณ์ ผ่านการเรียนรู้กระบวนการฟื้นฟูใบหน้าที่ครอบคลุมตั้งแต่สาเหตุจนถึงกระบวนการรักษาทั้งหมด ทำให้ได้รับการแนะนำอย่างตรงจุด
Botox , Filler และ Ulthera แบบไหนดีกว่ากัน ??
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/WEBCover_Skin1.jpg)
ใบหน้าก็เหมือนอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย ย่อมมีการเสื่อมสภาพตามวัย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ และทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยกลางคนผิวหนังจะเริ่มเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น จุดด่างดำ กระ ฝ้า ปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน หรือในกลุ่มคนที่มีอายุมาก ผิวหน้าจะเกิดความหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลก ชั้นไขมันฝ่อตัว ผิวบาง ความยืดหยุ่นลดลง เป็นต้น
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Facial01.jpg)
แต่ปัจจุบันด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ มีเทคนิคที่ช่วยฟื้นฟูให้ผิวหน้ากลับไปอ่อนเยาว์ และช่วยให้ผิวหนังบนใบหน้าช้าลง หรือดูน้อยลงได้ แต่การจะเลือกวิธีการใดขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล
จากความรู้ตามหลักการแพทย์ ใบหน้าคนเราแบ่งออกได้เป็น 4 ส่วน ได้แก่ ใบหน้าส่วนบน (Upper Face), ใบหน้าส่วนกลาง (Mid Face), ใบหน้าส่วนล่าง (Lower face) และลำคอ (Neck) โดยเมื่ออายุเพิ่มขึ้นเส้นริ้วรอย รอยย่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ตีนกา ความหย่อนคล้อยจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามช่วงวัย ซึ่งหากพิจารณาตามการตรวจวัดความหย่อนคล้อยใบหน้า (Grading) ของศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด (ตามภาพ) จะเห็นได้ว่า
จากความรู้ตามหลักการแพทย์ ใบหน้าคนเราแบ่งออกได้เป็น 4 ส่วน ได้แก่ ใบหน้าส่วนบน (Upper Face), ใบหน้าส่วนกลาง (Mid Face), ใบหน้าส่วนล่าง (Lower face) และลำคอ (Neck) โดยเมื่ออายุเพิ่มขึ้นเส้นริ้วรอย รอยย่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ตีนกา ความหย่อนคล้อยจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามช่วงวัย ซึ่งหากพิจารณาตามการตรวจวัดความหย่อนคล้อยใบหน้า (Grading) ของศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด (ตามภาพ) จะเห็นได้ว่า
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Grading_Web.jpg)
กลุ่มผู้ที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย รอยย่น รอยยับที่ยังไม่ลึกมาก หรือผิวหนังหย่อนคล้อยไม่มาก ในระดับ Grade 2 เหมาะกับการใช้โบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) หรือ โบท็อกซ์ (BOTOX®) ซึ่งเป็น Neurotoxin ที่มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อทำงานลดลง
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Collagen_Web.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Skin2_Web.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Skin4.jpg)
นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แพทย์ผิวหนังพบว่า Botulinum Toxin มีฤทธิ์ช่วยระงับการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนที่ดึงใบหน้าลง ทำให้ใบหน้ายกขึ้น ดูตึงกระชับ โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อบริเวณชั้น Dermis และการฉีดเป็นจุดเล็กๆ ยังเป็นการช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ให้เกิดขึ้นด้วย ทั้งนี้ การฉีด Botulinum Toxin เพื่อลดริ้วรอยบนใบหน้าที่นิยมฉีดกัน ได้แก่ รอยย่นตีนกาข้างหางตาทั้งสองข้าง รอยย่นระหว่างคิ้ว รอยยับย่นกลางหน้าผาก กราม
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Botox.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Botox-Lifting_USA_web.jpg)
สำหรับ Botulinum Toxin ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน และได้รับการรับรองจาก FDA เช่น BOTOX® (Botulinum toxin จากประเทศสหรัฐอเมริกา) Xeomin® (Botulinum toxin จากประเทศเยอรมัน) ซึ่ง Xeomin มีงานวิจัยรับรองว่า หลังฉีดเห็นผลทันที (immediate lifting effect)
ภาพก่อน และหลัง การฉีด BOTOX
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/BOTOX_web.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/FD3BCC87-413A-4889-945D-006982685CB8.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Skin6_Web.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Botox-Lifting_Germany_Line.jpg)
ต่อมาในกลุ่มผู้ที่มีอายุมากขึ้น ที่มีปัญหาผิวหนังในระดับ Grade 3 ตามการตรวจวัดความหย่อนคล้อยใบหน้า (Grading) ซึ่งนอกจากผิวหน้าจะหย่อนคล้อยลงแล้ว ยังมีการฝ่อของชั้นไขมัน และผิวหนังบางลงร่วมด้วย โดยสามารถเห็นได้ชัดบริเวณรอบกระบอกตา บริเวณร่องแก้ม และขมับ ดังนั้น การเติมสารเติมเต็มจะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Skin3_WEB.jpg)
หนึ่งในสารเติมเต็มที่รู้จักกันดีคือ ฟิลเลอร์ (Filler) ซึ่งมีส่วนประกอบหลักสำคัญคือ Hyaluronic acid (HA) ซึ่งได้รับมาตรฐาน FDA และเป็นสารชนิดเดียวกันกับร่างกาย
นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังมีหลายแบบและหลายคุณสมบัติ หากเลือกใช้ได้เหมาะสม ก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ต้องทำด้วยความระมัดระวัง และต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางที่ผ่านการฝึกอบรมมา เช่น ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวค่อนข้างสูง เช่น ฟิลเลอร์ Volift , Voluma สามารถนำมาใช้ปรับโครงหน้า ใบหน้ายกกระชับ แต่ถ้าในกลุ่มฟิลเลอร์ Volbella เนื้อค่อนข้างเหลว ข้อดี คือ เมื่อนำมาเติมร่อง เติมใต้ตา จะไม่เป็นก้อนให้สามารถคลำได้ ค่อนข้างกลืนไปกับผิว เพราะฉะนั้น ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสิ่งที่ต้องการจะแก้ไขปัญหา
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Filler_Web.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Skin7_web.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/FILLER_USA_Web.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Filler_Compare_web.jpg)
การฉีดฟิลเลอร์ที่ดีนั้น จะต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์นั้น มีวิธีการหลากหลายวิธีตามแต่ตำแหน่งความลึกตื้น ที่ต้องการให้ฟิลเลอร์ไปแทรกตัวอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดในชั้นตื้น การฉีดในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง หรือฉีดบริเวณเหนือกระดูก เพื่อช่วยดามให้เอ็นที่เกาะกับกระดูกยืดตึงขึ้น เป็นต้น ดังนั้น แพทย์ที่มีความรู้เรื่องโครงสร้างใบหน้าและชั้นผิว จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดี และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน
ทั้งนี้ หลังการฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลชัดเจนทันที และเมื่อฟิลเลอร์เซ็ตตัวก็จะเห็นผลชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี สำหรับผู้ที่รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลอยู่คงทนมากยิ่งขึ้น และสามารถทยอยฉีดเป็นส่วนๆ ได้ และสามารถทำร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์ ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ หลังการฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลชัดเจนทันที และเมื่อฟิลเลอร์เซ็ตตัวก็จะเห็นผลชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี สำหรับผู้ที่รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลอยู่คงทนมากยิ่งขึ้น และสามารถทยอยฉีดเป็นส่วนๆ ได้ และสามารถทำร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์ ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดียิ่งขึ้น
ภาพก่อน และหลัง การฉีด Filler
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Filler_website.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/FILLER_Lifting_web.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Ulthera_web.jpg)
นอกเหนือจาก Botulinum Toxin และฟิลเลอร์แล้ว การใช้คลื่นเสียงความถี่สูงลงไปยังผิวหนังชั้นลึก (micro-focused ultrasound) อย่าง Ulthera เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำและไม่ทำร้ายผิวชั้นนอก เพราะเป็นการสั่นสะเทือนของโมเลกุลและส่งพลังงานความร้อนสู่ผิวหนังชั้นใน ทำให้เกิดการหดตัวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ใบหน้ายกกระชับและเห็นผลทันทีหลังทำ ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการปรับและยกกระชับใบหน้าแบบล้ำลึกตั้งแต่ชั้นผิวตื้นไปยังผิวชั้น SMAS
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/1_Unique_Technology-Category_Of_Its_Own.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Ulthera_website.jpg)
ด้วยข้อดีในการแก้ไขปัญหาผิวในทุกระดับชั้น ทำให้ครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยไม่มาก (วัย 30 – 60 ปี) และกลุ่มคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ก็สามารถใช้ได้เหมือนกัน รวมทั้ง หากจะทำร่วมกับการศัลยกรรมดึงหน้าก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน โดยใช้เวลาในการทำ 30 นาที ถึง 1 ชม. ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ทันทีประมาณ 20% และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังจากนั้นจะเห็นผลเต็มที่ในช่วง 3-6 เดือน เนื่องจากมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ และผลการรักษาจะอยู่ได้นาน 1 ปี
Ulthera สามารถนำมาใช้ควบคู่กับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า เพื่อรักษาผลลัพธ์หลังการศัลยกรรมดึงหน้าให้คงอยู่ยาวนาน
Ulthera สามารถนำมาใช้ควบคู่กับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า เพื่อรักษาผลลัพธ์หลังการศัลยกรรมดึงหน้าให้คงอยู่ยาวนาน
ภาพก่อน และหลัง การปรับรูปหน้า ด้วยเครื่อง Ulthera
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Ulthera_01.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Ulthera_02.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Ulthera_03.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/Ulthera_04.jpg)
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/DR.Rasita_web1.jpg)
พญ.รสิตา อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านตจวิทยา ศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ได้อธิบายถึงหลักสำคัญควรรู้ก่อนเลือกทำหน้าอย่างไร ให้เหมาะสมสวยงามว่า
“สิ่งสำคัญของการให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี คือ ควรเลือกแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญ รู้โครงสร้างของชั้นผิวเป็นอย่างดี เพราะหากฉีดผิดตำแหน่ง ผิดชั้นผิว นอกจากจะไม่ได้ผลดีแล้ว อาจจะได้ผลเสียตามมาด้วย รวมถึง เลือกวิธีการรักษาที่มีความเหมาะสมให้ตรงกับปัญหาของคนไข้ได้อย่างตรงจุดด้วย
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/DR.Rasita_web02.jpg)
ประการที่สอง ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้ถูก ทั้งในเรื่องมาตรฐานรับรองคุณภาพ FDA และคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหา เช่น Filler ถ้าต้องการแก้ไขในส่วนของร่องบนผิวหน้า ผลิตภัณฑ์ก็ควรมีเนื้อที่นิ่มกลืนไปกับผิว แต่หากต้องการยกกระชับใบหน้า ก็ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความคงตัวค่อนข้างสูง ซึ่งแพทย์ต้องเลือกให้เหมาะสม สุดท้ายคือ เทคนิค ต้องฉีดให้ถูกตำแหน่ง เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนและให้ได้ผลลัพธ์ดี”
เนื่องจากในปัจจุบัน มีวิธีการรักษา และเทคโนโลยีในการรักษาใบหน้าให้อ่อนเยาว์หลายวิธี ดังนั้น สิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการ ควรเลือกสถานบริการที่มีแพทย์เฉพาะ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและมากประสบการณ์ ผ่านการเรียนรู้กระบวนการฟื้นฟูใบหน้าที่ครอบคลุมตั้งแต่สาเหตุจนถึงกระบวนการรักษาทั้งหมด ทำให้ได้รับการแนะนำอย่างตรงจุด
![](https://www.bangmodaesthetic.com/public/upload/FacialContouring/12fl..jpg)
ปรึกษาปัญหาเรื่องศัลยกรรมครบวงจรเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2867-0606 ต่อ 1200 , 084-456-7777 , 063-770-0968 , 062-257-5499
Facebook : www.facebook.com/Bangmodaestheticcenter
LINE ID : @bangmod
Instagram : bangmodaesthetic
YouTube : http://www.youtube.com/user/bangmodhos